พอดีได้มีโอกาสไปลองจับ iPad 2 มาสักประมาณ 10 นาทีครับ เลยเอามาเขียนเป็นมินิพรีวิวให้ได้อ่านกัน

ความรู้สึกครั้งแรกก่อนจับ iPad 2 นั้นผมคิดว่า ตัวเลขน้ำหนักที่ Apple แจ้งมาก่อนหน้านี้ มันเบากว่าเดิมแค่นิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่เมื่อลองจับ iPad 2 ดูแล้วพบว่ามันเบากว่าเดิมมากทีเดียวครับ ไม่รู้สึกเมื่อยมือแบบ iPad 1 อีกต่อไปครับ

ส่วนในเรื่องของความบางนั้น ยอมรับว่ามัน "บางมาก" ทีเดียวครับ บางจริงๆ ซึ่งถึง iPad 2 จะมีตัวเลขบอกว่ามันบางลงแค่ไม่กี่มิลลิเมตร แต่เมื่อจับแล้วมันบางมากจริงๆนะ อันนี้ต้องลองไปจับกันดูครับ

โดยรุ่นที่ผมได้ไปลองเล่นมานั้นเป็น iPad 2 สีดำ 3G+WiFi 64GB ครับ
ด้านความเร็วของ iPad 2 ยอมรับเลยว่า เร็วขึ้นกว่าเดิมมากจริงๆ เร็วกว่าทั้ง iPad ตัวแรก และ iPhone 4 อย่างเห็นได้ชัดครับ (มีถ่ายวีดีโอมาให้ดูด้วยนิดนึงครับ ดูได้ที่ท้ายข่าวนี้ได้เลยครับ)

ด้านการถ่ายรูป ความรู้สึกแรกหลังจากที่เปิดกล้องถ่ายรูปของ iPad 2 มีความรู้สึกว่า ทำไมมันใหญ่จัง ภาพเต็มจอเลย เวลาถ่ายรูปจะดูตื่นตาตื่นใจเพราะความใหญ่ของมันครับ แต่ภาพเมื่อถ่ายออกมาแล้ว คุณภาพก็ไม่ได้ดีเท่าไรครับ เพราะกล้อง iPad 2 ไม่ได้ละเอียดมาก แต่ความใหญ่นี่ได้ใจไปเต็มๆเลยครับ
เรื่องกล้องยังไม่จบแค่นั้นครับ ผมคิดว่า iPad 2 นั้นมีดีที่ Photo Booth จริงๆครับ ถ้าหากสาวๆท่านใดหยิบ iPad 2 ขึ้นมา จะต้องชอบ Photobooth แน่นอนครับ โดย Photo Booth ของ iPad 2 ก็ได้ใส่เอฟเฟ็กซ์มาให้ 9 แบบครับ
ส่วนฟีเจอร์การใช้งาน FaceTime นั้นไม่ได้ลองใช้งานครับ เนื่องจากมีเวลาน้อยครับ

สำหรับหลายๆคนอาจจะมีคำถามว่า มี iPad 1 อยู่แล้ว จะซื้อ iPad 2 ดีมั้ย?
อันนี้ครั้งแรกก่อนที่ผมจะจับ iPad 2 ผมก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องซื้อครับ แต่พอไปจับแล้วก็เปลี่ยนใจไปเลย เพราะ minor change ของ iPad 2 นี่มันออกมาแบบ เล็กๆ แต่ใหญ่มากครับ โดยเฉพาะกล้อง ใหญ่จริงๆนะ ต้องลอง

ขอขอบคุณคุณลิฟท์ (@L77) จากร้าน Blink7 ชั้น 4 MBK ที่ให้ยืมเครื่อง iPad 2 มาใช้ประกอบการพรีวิวในครั้งนี้ครับ วันที่ผมไปลองเล่น iPad 2 นี้ iPad 2 ที่ร้านของคุณลิฟท์ก็ขายหมดเกลี้ยงไปแล้วครับ ใครที่สนใจคงจะต้องรอล็อตหน้าแล้วครับ ยังไงก็ติดตามความคืบหน้าของ iPad 2 เครื่องหิ้วได้จากร้าน Blink7 ของคุณลิฟท์นะครับ


ความรู้สึกครั้งแรกก่อนจับ iPad 2 นั้นผมคิดว่า ตัวเลขน้ำหนักที่ Apple แจ้งมาก่อนหน้านี้ มันเบากว่าเดิมแค่นิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่เมื่อลองจับ iPad 2 ดูแล้วพบว่ามันเบากว่าเดิมมากทีเดียวครับ ไม่รู้สึกเมื่อยมือแบบ iPad 1 อีกต่อไปครับ

ส่วนในเรื่องของความบางนั้น ยอมรับว่ามัน "บางมาก" ทีเดียวครับ บางจริงๆ ซึ่งถึง iPad 2 จะมีตัวเลขบอกว่ามันบางลงแค่ไม่กี่มิลลิเมตร แต่เมื่อจับแล้วมันบางมากจริงๆนะ อันนี้ต้องลองไปจับกันดูครับ

โดยรุ่นที่ผมได้ไปลองเล่นมานั้นเป็น iPad 2 สีดำ 3G+WiFi 64GB ครับ
ด้านความเร็วของ iPad 2 ยอมรับเลยว่า เร็วขึ้นกว่าเดิมมากจริงๆ เร็วกว่าทั้ง iPad ตัวแรก และ iPhone 4 อย่างเห็นได้ชัดครับ (มีถ่ายวีดีโอมาให้ดูด้วยนิดนึงครับ ดูได้ที่ท้ายข่าวนี้ได้เลยครับ)

ด้านการถ่ายรูป ความรู้สึกแรกหลังจากที่เปิดกล้องถ่ายรูปของ iPad 2 มีความรู้สึกว่า ทำไมมันใหญ่จัง ภาพเต็มจอเลย เวลาถ่ายรูปจะดูตื่นตาตื่นใจเพราะความใหญ่ของมันครับ แต่ภาพเมื่อถ่ายออกมาแล้ว คุณภาพก็ไม่ได้ดีเท่าไรครับ เพราะกล้อง iPad 2 ไม่ได้ละเอียดมาก แต่ความใหญ่นี่ได้ใจไปเต็มๆเลยครับ
เรื่องกล้องยังไม่จบแค่นั้นครับ ผมคิดว่า iPad 2 นั้นมีดีที่ Photo Booth จริงๆครับ ถ้าหากสาวๆท่านใดหยิบ iPad 2 ขึ้นมา จะต้องชอบ Photobooth แน่นอนครับ โดย Photo Booth ของ iPad 2 ก็ได้ใส่เอฟเฟ็กซ์มาให้ 9 แบบครับ
ส่วนฟีเจอร์การใช้งาน FaceTime นั้นไม่ได้ลองใช้งานครับ เนื่องจากมีเวลาน้อยครับ

สำหรับหลายๆคนอาจจะมีคำถามว่า มี iPad 1 อยู่แล้ว จะซื้อ iPad 2 ดีมั้ย?
อันนี้ครั้งแรกก่อนที่ผมจะจับ iPad 2 ผมก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องซื้อครับ แต่พอไปจับแล้วก็เปลี่ยนใจไปเลย เพราะ minor change ของ iPad 2 นี่มันออกมาแบบ เล็กๆ แต่ใหญ่มากครับ โดยเฉพาะกล้อง ใหญ่จริงๆนะ ต้องลอง

ขอขอบคุณคุณลิฟท์ (@L77) จากร้าน Blink7 ชั้น 4 MBK ที่ให้ยืมเครื่อง iPad 2 มาใช้ประกอบการพรีวิวในครั้งนี้ครับ วันที่ผมไปลองเล่น iPad 2 นี้ iPad 2 ที่ร้านของคุณลิฟท์ก็ขายหมดเกลี้ยงไปแล้วครับ ใครที่สนใจคงจะต้องรอล็อตหน้าแล้วครับ ยังไงก็ติดตามความคืบหน้าของ iPad 2 เครื่องหิ้วได้จากร้าน Blink7 ของคุณลิฟท์นะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น