วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ธุรกิจมือถือชี้ รายได้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจะแซงบริการเสียงในอีก 3 ปี

ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือคาดว่ารายได้จากการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจะกลายเป็นแหล่งทำเงินหลักในตลาดประเทศพัฒนาแล้วในอีก 3 ปีข้างหน้า และต้องการคิดค่าธรรมเนียมจากการเข้าถึงเครือข่ายของตนจากผู้ให้บริการคอนเทนต์ ซึ่งยิ่งก่อให้เกิดความสงสัยเรื่องหลักการความเท่าเทียมของการส่งข้อมูลบนเครือข่าย (Net neutrality) มากขึ้น

เดอะ ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า จากการสอบถามความคิดเห็นของผู้บริหารในธุรกิจดังกล่าวโดยอีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนส์ ยูนิท ชี้ว่า รายได้จากบริการด้านเสียงซึ่งปัจจุบันคิดเป็น 70% ของรายได้ทั้งหมดจะถูกแซงโดยรายได้จากการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นภายในปี 2556

หลายคนยังแสดงความกังวลด้วยว่า เมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยหันไปใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ ดาวน์โหลดวีดีโอและเกมส์มากขึ้น บริษัทของพวกเขาต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการจัดเก็บข้อมูลในขณะที่ผู้ให้บริการคอนเทนต์สามารถเก็บเงินเข้ากระเป๋าได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
 
นาตาชา กู้ด ผู้ร่วมทำวิจัยครั้งนี้ชี้ว่า "ผู้ให้บริการมือถือต้องหันไปหาคอนเซ็ปต์ที่ว่า คอนเทนต์คือหัวใจ แต่พวกเขาก็อาจต้องถามตัวเองว่า ′เราจะเป็นแค่ท่อส่งที่ไม่มีสิทธิ์มีเสียงที่คอยขนถ่ายคอนเทนต์หรือเราจะมีส่วนแบ่งในเค้กก้อนนี้ด้วย′"

จากการสำรวจยังพบว่า 55% เห็นว่าผู้ให้บริการเครือข่ายควรมีสิทธิ์เรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการใช้บริการเครือข่าย ขณะที่ 38% เห็นว่าควรเป็นไปตามรูปแบบเดิมนั่นคือไม่อนุญาตให้เรียกเก็บค่าบริการจากใครเป็นพิเศษ
 ประเด็น Net neutrality ซึ่งเป็นปัญหามานานยิ่งเข้มข้นขึ้นอีกเมื่อกูเกิลและเวอร์ริซอนออกแถลงการณ์ร่วมว่าควรบริหารจัดการทราฟฟิกออนไลน์อย่างไร ซึ่งหนึ่งในนั้นระบุว่าเจ้าของเครือข่ายควรมีสิทธิ์คิดค่าบริการพิเศษจากคอนเทนต์บางประเภทได้

ด้านบริษัทหลายแห่งในยุโรปอย่างฟรานซ์เทเลคอมและเทเลโฟนิกา จากสเปน ก็เรียกร้องขอเก็บเงินจากเว็บไซต์ที่ใช้พื้นที่มากอย่างยูทูบ ทว่าทางเจ้าหน้าที่ของคณะกรรมาธิการยุโรปไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าวเพราะถือว่าเข้าข่ายการเลือกปฏิบัติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น